|
ไก่บ้านหรือไก่พื้นบ้านกับไก่ชน ข้อมูลจากตำราทั้งเก่าและใหม่ รวมกับข้อมูลที่ได้จากการซักถามพูดคุยกับคนเฒ่าคนแก่และคนที่ชอบเลี้ยงไก่ชน ทำให้เราสรุปได้ว่า ”ไก่ชนกับไก่บ้านหรือไก่พื้นบ้านก็คือไก่ประเภทเดียวกัน” จนอาจพูดเป็นภาษาชาวบ้านได้ว่า ”ไก่ชนก็คือไก่บ้านดีๆ นี่เอง หรือไก่ชนกับไก่บ้านก็คือไก่อันเดียวกันนั่นแล” เพียงแต่ว่าไก่ที่จะนำไปชนกันนั้นเป็นไก่ที่เก่ง ผ่านการคัดเลือก ผ่านการฝึกฝนหรือเก็บเนื้อเก็บตัวมาแล้ว ไก่ที่นำไปชนจึงเก่งผิดจากไก่บ้านตัวอื่นๆ และจากไก่ตัวเมียตัวผู้ที่เก่งๆ นี่เองชาวบ้านมักจะเลี้ยงไว้เป็นพ่อแม่พันธุ์ ลูกหลานไก่ที่เกิดมาก็มักจะเก่งเหมือนพ่อแม่ไก่ ชาวบ้านก็เลยเรียกไก่พื้นบ้านเหล่านี้ว่า ”พันธุ์ไก่ชน” ด้วยเหตุนี้แหละจึงทำให้พวกเราซึ่งเกิดทีหลังรู้สึกสับสนระหว่างคำว่า ”ไก่พื้นบ้านกับไก่ชน”
ไก่บ้านหรือไก่พื้นบ้านมาจากไหนจากการค้นคว้าพบว่า ไก่พื้นบ้านหรือไก่ชนพัฒนาสายพันธุ์มาจากไก่ป่า(ไก่ป่าทั่วไป, ไก่ป่าตุ้มหูขาว, ไก่ป่าตุ้มหูแดง, ไก่ป่าตุ้มหูเหลือง และอาจจะมีอีกหลายชนิด) โดยธรรมชาติแล้วไก่ป่าจะมีนิสัยหวงถิ่นหรือพื้นที่อันเป็นเขตแดนของตน โดยเฉพาะไก่ป่าตุ้มหูแดงนั้นหลายตำราบอกว่าจะหวงถิ่นมากเป็นพิเศษ มักจะขับไล่ไก่ตัวอื่นที่ลุกล้ำอาณาเขตเสมอ ต่อมาเมื่อคนยุคโบราณเห็นถึงข้อดีความเก่งความเป็นนักต่อสู้ เลยจับไก่ป่ามาเลี้ยงและในยามว่างงานก็นำไก่มาตีกัน(ซึ่งต่อมาเรียกว่า ”การชนไก่”) ไก่ตัวไหนดีตัวไหนเก่งชาวบ้านก็เก็บไว้ทำพ่อแม่พันธุ์และพัฒนาสายพันธุ์มาเรื่อยๆ จนลูกหลานไก่ป่าคุ้นเคยกับผู้คน จากไก่ป่ากลายเป็นไก่บ้านหรือไก่พื้นบ้าน เหล่ากอหรือเผ่าพันธุ์ไหนเก่งก็เรียกว่า ”พันธุ์ไก่ชน” การชนไก่ถือว่าเป็นการละเล่นขณะพักผ่อนยามว่างงาน เป็นเกมกีฬาอย่างหนึ่งของบรรพบุรุษสืบมาจนถึงทุกวันนี้
 ไก่ป่าตุ้มหูขาว |  ไก่ป่าตุ้มหูขาว |
 ไก่ป่าตุ้มหูแดง |  ไกป่าตุ้มหูขาวผสมไก่พื้นบ้านหลายชั้น |
ไก่เหลืองหางขาวมีถิ่นกำหนดเดิมอยู่ที่บ้านหัวเท ตำบลบ้านกร่าง จังหวัดพิษณุโลก ไก่เหลืองหางขาวเป็นไก่ที่ฉลาดปราดเปรียว อดทน ลักษณะเด่นคือ ตัวผู้จะมีสร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลัง ขนปิดหูเหมือนกันตลอด มีจุดขาว 5 แห่ง คือ ที่ท้ายทอย หัวปีกทั้งสองข้าง ที่ข้อขาทั้งสองข้าง บางตำราเรียกว่า ”พระเจ้า 5 พระองค์” เพศผู้มีสร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลัง เป็นสีเหลืองเหมือนกันตลอด ขนสีตัวเป็นสีดำ ส่วนปาก แข้ง เล็บ เดือย มีสีขาวอมเหลืองคล้ายสีงาช้าง ลูกตาสีเหลืองอ่อน ”เรียกว่าตาปลาหมอตาย” ส่วนเพศเมียมีขนพื้นตัวเป็นสีดำตลอดมีกระขาว 2 หย่อมเหมือนกัน
 |  |
ไก่เหลืองหางขาว |
ไก่ประดู่หางดำมีถิ่นกำหนดแถวภาคกลาง เพศผู้มีสร้อยคอ สร้อยปี สร้อยหลังและขนปิดหูเป็นสีประดู่ ถ้าสีแก่จะเรียกว่า ”ประดู่เมล็ดมะขามคั่ว” ถ้าสีอ่อนจะเรียกว่า ”ประดู่แดง” หางพัด และกะลวยสีดำปลอด ไม่มีขาวแซม พื้นสีลำตัวไม่มีสีอื่นแซม ตาสีไพร ส่วนปาก แข้ง เดือย เป็นสีเขียวอมดำ หรือดำสนิท เพศเมีย มีขนสีดำสนิทรับกันทั้งตัว ไม่มีสีขาวแซม บางตัวมีขลิบสร้อยคอสีประดู่ ถือว่าเป็นไก่พันธ์แท้ ส่วนปาก แข้ง เดือย ลักษณะเหมือนเพศผู้
 |  |
ไก่ประดู่หางดำ |
ไก่ประดู่แสมดำมีถิ่นกำเนิดอยู่แถบพื้นที่ภาคกลางเป็นหลัก อาจมีพบในภูมิภาคอื่นบ้างปะปราย ซึ่งในปัจจุบันพบเห็นได้น้อยมาก ลักษณะ เพศผู้จะมีสีสร้อยคอ สนับปีก สร้อยหลังรวมถึงขนปิดหู เป็นสีประดู่ ซึ่งมีทั้งสีประดู่แดงและประดู่เม็ดมะขาม ขนพื้น ตัวเป็นสีดำ ปีกและหางพัดรวมถึงหางกะลวยเป็นสีดำปราศจากสีขาวแซม ปาก และสีตาดำสนิท แข้ง เล็บ เดือย เป็น สีดำ ใบ หน้าจะมีสีแดงคล้ำ(แดงอมดำ) ขอบตาดำ ผิวหนังบริเวณลำตัวจะเป็นสีคล้ำ(แดงอมดำ) ในช่วงที่ยังเล็กอยู่มักจะมีสีผิวดำ ทั้งใบหน้า และบริเวณลำตัวไก่ประดู่แสมดำเพศเมียจะมีขนพื้นตัวเป็นสีดำตลอดตัว ใบหน้าจะมีสีดำชัดเจนมากกว่าตัวผู้มาก ปาก แข้ง เล็บ มีสีดำสนิท
 |  |
ไก่ประดู่แสมดำ |
ไก่เขียวหรือเขียวแมลงภู่เพศผู้มีสร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลังและขนปิดหู สีเขียวอมดำคล้ายสีแมลงภู่ สีขนพื้นตัวเป็นสีมันดำ หางพัด และหางกะลวยสี ดำตลอด ส่วนปาก แข้ง เล็บ ตา มีสีเขียวอมดำ ส่วนเพศเมียมีพื้นสีตัวเป็นสีดำ ปลายขนเป็นเงาออกเขียวส่วนอื่นๆ เหมือนเพศผู้
 |  |
ไก่เขียวหรือเขียวแมลงภู่ |
ไก่ประดู่เลาหางขาวเพศผู้ ขนพื้นตัวสีดำ ขนปี หางพัดสีขาวปนดำ หางกะลวยกลางสีขาว ส่วนคู่อื่นๆ มีสีขาวปลายดำ ขนสร้อยคอ สร้อยปี สร้อย หลัง มีสีประดู่เลา คือโคนสร้อยสีขาวปลายสร้อยสีประดู่ ปาก แข้ง เดือย มีสีขาวอมเหลือง ไก่ประดู่เลาหางขาว มี 4 เฉดสี คือ ประดู่เลาใหญ่ ประดู่เลาเล็ก ประดู่เลาแดง และประดู่เลาดำ
 |  |
ไก่ประดู่เลาหางขาว |
ไก่เขียวเลาหางขาวเพศผู้ขนพื้นตัวสีดำ และขนปีกหางสีดำ หางกะลวยคู่สีขาว ส่วนคู่อื่นๆ มีสีขาวปลายดำ สร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลังสีเขียวเลา คือ ขนสร้อยท่อนล่างสีขาว องปลายสีเขียว ส่วนปาก แข้ง เล็บ สีขาวอมเหลืองหรือขาวงาช้าง มี 3 สายพันธุ์ คือ 1.เขียวเลา ใหญ่พระเจ้า 5 พระองค์ 2.เขียวเลาเล็กหางขาว 3.เขียวเลาดอกหางขาว
 |  |
ไก่เขียวเลาหางขาว |
ไก่ลายหางขาวเพศผู้ขนพื้นตัวลาย ขนปีก ขนหางพัดลาย หางกะลวยคู่กลางสีขาวปลอด คู่อื่นๆ สีขาวปลายลาย ส่วนปาก แข้ง เล็บ เป็นสีขาว อมเหลือง
 |  |
ไก่ลายหางขาว |
ไก่ขาวหรือไก่ชีชีเพศผู้ขนพื้นตัวสีขาว ขนสร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลัง เป็นระย้าสีขาวรับกันกับปาก แข้ง เล็บ และมีเดือย สีขาวอมเหลือง หางดัด กางกะลวยเป็นสีขาว ส่วนลักษณะเพศเมียเหมือนเพศผู้ ไก่ขาวแบ่งตามเฉดสีได้ 4 ชนิด คือ ไก่ชีขาว แพรขาว ขาวกระดำ และขาวกระแดง
 |  |
ไก่ขาวหรือไก่ชี |
ไก่นกแดงเพศผู้ขนพื้นลำตัว หน้าคอ หน้าท้อง ใต้ปีกสีแดงเพลิงตลอด ขนสร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลัง ด้านขนสีแดง หางพัด หาง กะลวย ก้านหางสีแดง และเป็นรู้หางม้า ปากสีเหลืองอมแดง รับกับสีแข้ง เล็บ และเดือย ไก่นกแดงมี 4 เฉดสี คือ แดงชาด แดงทับทิม แดงเพลิง และแดงนาก ส่วนเพศเมีย ขนพื้นตัว ขนหลัง ขนหาง และขนสร้อยคอ มีสีแดงรับกันตลอดทั้งตัว ปาก แข้ง เดือย เหมือนเพศผู้
 |  |
ไก่นกแดง |
ไก่เทาเพศผู้มีขนสร้อยคอ สร้อยหลังสีเหลือง หางพัด และหางกะลวยสีเทาปนขาวสลับดำ ขนพื้นตัวสีเทาตลอดส่วนปาก แข้ง เดือยสี ขาวอมเหลือง สีเทาอมดำ เรียกว่า ”เท่าขี้ควาย” สีเทาอมขาวเรียกว่า ”เทาขี้เถ้า” และสีเทาสร้อยเหลือง เป็นไก่เทายอดนิยมเรียก ว่า ”เทาฤๅษี” หรือ ”เทาทอง” เพศเมียขนพื้นตัว ขนหลัง ขนปีก ขนหาง และขนสร้อยคอเป็นสีเทากันตลอดทั้งตัว ส่วนปาก แข้ง เดือย เหมือนเพศผู้
 |  |
ไก่เทา |
ไก่นกกรดเพศผู้ ขนพื้นลำตัวสีดำสนิท ขนสร้อยคอ สร้อยปี สร้อยหลังระย้าเป็นสีแดงอมน้ำตาลอ่อนๆ ขนหางพัด หางกะลวยสีดำปลอด ไม่มีสีอื่นแซม แต่ก้านขนจะมีสีแดงเข้ม ส่วนปาก แข้ง เล็บ เดือย สีเหลืองแกมแดง ไก่นกกรดแบ่งได้ 4 สี ได้แก่ นกกรดแดง นกกรดดำ นกกรดเหลือง และนกกรดกะปูด ส่วนเพศเมียขนพื้นลำตัวสีน้ำตาลแบบสีกาบอ้อย ขนสร้อยคอ ขนหลัง ขนปีก มีสีน้ำตาล ปลายปีกสีน้ำตาลเข้ม ส่วนอื่นๆ เหมือนเพสผู้
 |  |
ไก่นกกรด |
ไก่ทองแดงเพศผู้ ขนพื้นตัวตั้งแต่บริเวณหน้าคอ หน้าอก ใต้ปีก ใต้องเป็นสีแดง หางพัด กะลวยสีดำสนิทไม่มีสีอื่นแซม หางยาวพุ่งตรง สวยงาม ส่วนปาก แข้ง เล็ด มีสีเหลืองอมแดง ดวงตาสีแดง ไก่ทองแดงหางดำ แบ่งได้ 4 สี ได้แก่ ทองแดงใหญ่ ทองแดง ตะเภาทอง ทองแดงแข้งเขียวตาลาย ทองแดงอ่อนหรือสีปูนแห้ง ส่วนเพศเมียขนสีพื้นตัวด้านล่าง หน้าคอ หน้าอก ในปีก ใ ต้ท้อง ก้นมีสีแดง และส่วนอื่นๆ เหมือนเพศผู้
 |  |
ไก่ทองแดง |
ไก่สีดอกหมากหางขาวหรือลีโยไก่พันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดทางภาคกลาง คล้ายไก่เหลืองหางขาวผสม ลักษณะสร้อยคอปลายขนจะออกขาวอมเหลือง คล้ายสีดอก หมาก กะลวยหางสีขาวปลอดสีดำที่ปลายหาง พื้นตัวสีดำ เดือยและก้านปีกสีขาวอมเหลือง
 |  |
ไก่สีดอกหมากหางขาวหรือลีโย |
ไก่พม่าเป็นไก่ที่นำเข้าจากพม่า ตัวเล็กน้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม ปากแหลมสีดำ ขนสีดอกหมาก สร้อยคอสร้อยสร้อยปีกเป็นสีดอก หมาก หางสีดำ แข้งเล็กสีดำ หรือบางตัวจะเป็นไก่สีกรดมีความว่องไวมาก กระโดดสูง นิยมเลี้ยงกันทางภาคเหนือ ส่วนภาค อื่นๆ นิยมนำมาเป็นพ่อพันธุ์เพื่อผสมสายพันธ์ตามชั้นเชิงที่ต้องการ
 |  |
ไก่พม่า |
ไก่ด่างเบญจรงค์
 |  |
ไก่ด่างเบญจรงค์ |
ไก่เหล่าป่าก๋อย
 |  |
ไก่เหล่าป่าก๋อย |
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น